วิดีโอการเผยแผ่ศาสนา

การประกอบพิธีฮัจญ์ คืออะไร
การประกอบพิธีฮัจญ์ คืออะไร

การประกอบพิธีฮัจญ์คือหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญยิ่งห้าประการของศาสนาอิสลาม เป็นข้อบังคับสำหรับชาวมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถทั้งทางร่างกายและกำลังทรัพย์ คือการเดินทางจาริกแสวงบุญไปยังนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้งเพื่อชำระล้างบาปและขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นเอกภาพและความเท่าเทียมกันของประชาชาติมุสลิมจากทั่วทุกมุมโลก ที่มารวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน ซึ่งโดยปกติแล้วชาวมุสลิมควรจะประกอบพิธีฮัจญ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ พิธีฮัจญ์มีความหมายอันลึกซึ้งในการเปลี่ยนแปลงชีวิตนำมาซึ่งความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ และสร้างความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น

ดินแดนมักกะฮ์และมัสยิดอัลหะรอม
ดินแดนมักกะฮ์และมัสยิดอัลหะรอม

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งมักกะฮ์และมัสยิดอัลฮะรอม ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่เป็นหัวใจทางจิตวิญญาณของศาสนาอิสลามและต้นกำเนิดแห่งศรัทธา เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดมายาวนานนับพันปี เป็นดินแดนที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ได้ถือกำเนิดขึ้น และเป็นที่ตั้งของกะอ์บะฮ์อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นทิศทางในการละหมาดของชาวมุสลิมทั่วโลก การได้ประกอบพิธีละหมาด ณ มัสยิดอัลฮะรอมแห่งนี้ เชื่อกันว่ามีผลบุญเทียบเท่ากับการละหมาดถึงหนึ่งแสนครั้งในที่อื่น ๆ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางอันสูงสุดของการแสวงบุญฮัจญ์และอุมเราะห์ มอบประสบการณ์อันลึกซึ้งที่เติมเต็มจิตวิญญาณ เป็นศูนย์รวมแห่งความสงบสุข ศรัทธา และความผูกพันของประชาชาติอิสลาม

ดินแดนที่ดีที่สุด
ดินแดนที่ดีที่สุด

อัฟฎ็อลุลอะรอดีย์ (ดินแดนอันประเสริฐ) ค้นพบ "ดินแดนอันประเสริฐ" ที่มีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าเพียงแค่ผืนดินทั่วไป เพราะนี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้ให้การรับรองและยกย่องให้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์อิสลาม ดินแดนเหล่านี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ความศรัทธาอันลึกซึ้ง และความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นมรดกทางจิตวิญญาณอันทรงพลังที่ส่งต่อมานับจากยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของศาสนาอิสลาม เชิญสัมผัสเรื่องราวอันยิ่งใหญ่และความสำคัญอันมิอาจประเมินค่าได้ของดินแดนแห่งบารอกะฮ์เหล่านี้ ซึ่งมิเพียงเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงหัวใจผู้ศรัทธา แต่ยังเป็นเสมือนหัวใจที่เต้นอยู่ของประชาชาติอิสลามทั่วโลก อัญเชิญมาเรียนรู้และซาบซึ้งในความพิเศษของผืนดินแห่งนี้ ที่ศาสดาได้ทรงรับรองไว้ (ตามที่ท่านนบีมุฮัมมัด ﷺ ได้รวมไว้ซึ่งดินแดนอันประเสริฐเหล่านี้)

ความประเสริฐของมัสยิดนะบะวีย์
ความประเสริฐของมัสยิดนะบะวีย์

ขอเชิญสัมผัสความยิ่งใหญ่และสงบเงียบ ณ มัสยิดนะบะวี (มัสยิดของท่านศาสดา) ในเมืองมะดีนะห์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นมัสยิดที่สำคัญที่สุดอันดับสองในอิสลาม และเป็นที่พำนักสุดท้ายของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ทุกการละหมาดที่นี่มีผลบุญทวีคูณถึง 1,000 เท่า เมื่อเทียบกับมัสยิดอื่น ๆ ดั่งที่กล่าวไว้ว่า "ศรัทธาจะหลั่งไหลสู่เมืองนี้และปกคลุมเมืองนี้โดยสมบูรณ์" คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งสันติสุข ความเมตตา และความใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์อิสลามอันรุ่งโรจน์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้ศรัทธาทั่วโลก สถานที่ที่ผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมาเพื่อแสวงหาความสงบทางจิตวิญญาณ และเสริมสร้างความผูกพันอันลึกซึ้งกับศาสนาของพวกเขา มัสยิดแห่งนี้คือโอเอซิสแห่งอีหม่าน ความหวัง และแรงบันดาลใจอันไม่รู้จบสำหรับทุกหัวใจที่ใฝ่หาความจริง.

ซูเราะฮ์ ฟุซซิลัต
ซูเราะฮ์ ฟุซซิลัต

ซูเราะห์ฟุซซิลัต (Surah Fussilat) คือบทที่ 41 อันทรงคุณค่าแห่งคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งมีชื่อที่แปลว่า "รายละเอียด" หรือ "อธิบายอย่างชัดเจน" บ่งบอกถึงการชี้แจง หลักฐานอันมากมายของอัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง และความจริงแห่งการเผยวะฮีย์ บทนี้กล่าวถึงอำนาจและสัญญาณของอัลลอฮ์ที่ปรากฏในธรรมชาติอันกว้างใหญ่ รวมถึงโชคชะตาของผู้ศรัทธาที่ยึดมั่นและผู้ปฏิเสธอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อายะห์ที่ 30 ที่ท่านได้เห็น เป็นข้อความอันงดงามที่ให้กำลังใจอย่างยิ่ง แด่ผู้ที่กล่าวว่า "พระเจ้าของเราคืออัลลอฮ์" แล้วยืนหยัดในความศรัทธาอย่างมั่นคงและซื่อตรง มะลาอิกะฮ์จะลงมาหาพวกเขา ป่าวประกาศว่า "อย่าหวาดกลัวและอย่าเศร้าโศกเลย" แต่จงชื่นชมยินดีกับสวรรค์ที่พวกท่านได้รับการสัญญาไว้ ซึ่งเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่จากพระผู้เป็นเจ้า ข้อความนี้เป็นแสงแห่งความหวังและการเตือนใจถึงความสำคัญของความซื่อตรงและศรัทธาในศาสนาอันแท้จริง

ซูเราะฮ์ ยูนุส
ซูเราะฮ์ ยูนุส

สัมผัสความลึกซึ้งของ 'สุเราะฮ์ ยูนุส' (سورة يونس) บทหนึ่งจากอัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมอบแนวทางอันเป็นนิรันดร์แก่ชีวิตมนุษย์และความเข้าใจในพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า โดยเฉพาะอายะฮ์ที่ 14 นี้ (ثُمَّ جَعَلۡنَٰكُمۡ خَلَـٰٓئِفَ فِي ٱلۡأَرۡضِ مِنۢ بَعۡدِهِمۡ لِنَنظُرَ كَيۡفَ تَعۡمَلُونَ) ซึ่งแปลว่า 'แล้วเราได้ให้พวกเจ้าเป็นผู้สืบทอดในแผ่นดินหลังจากพวกเขา เพื่อเราจะได้เห็นว่าพวกเจ้าจะประพฤติปฏิบัติอย่างไร' ได้ย้ำเตือนถึงบทบาทอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์บนโลก เราถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลผืนแผ่นดินและอัลลอฮ์ทรงเฝ้าสังเกตทุกการกระทำของเราอย่างใกล้ชิด นี่คือการทดสอบจากพระองค์ เพื่อพิจารณาว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบหรือไม่ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความดี การปฏิบัติที่เป็นธรรม และการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม การใคร่ครวญอายะฮ์นี้จะช่วยนำทางเราไปสู่ชีวิตที่เปี่ยมด้วยความหมาย และนำมาซึ่งความเมตตาและบารอกะฮ์ (ความจำเริญ) จากอัลลอฮ์ในโลกนี้และโลกหน้า

تطوير midade.com

جمعية طريق الحرير للتواصل الحضاري