ท่านศาสนทูตได้ส่งเสริมให้ผู้คนอ่อนโยนต่อสัตว์ โดยไม่บังคับให้ทำในสิ่งที่เกินความสามารถและไม่ทำร้ายมัน รวมถึงการทำให้มันเจ็บปวดน้อยที่สุด แม้กระทั่งในขณะที่กำลังเชือดเพื่อบริโภคมันก็ตาม ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน)
ทั้ง ๆ ที่การละหมาดคือเสาหลักของอิสลาม ซึ่งไม่อนุญาตให้พูดหรือเคลื่อนไหวมากจนเกินไป แต่ท่านศาสนทูต (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) ก็เคยละหมาดขณะอุ้มหลานของท่าน นั่นคือ อุมามะฮฺ บุตรสาวของท่านหญิงซัยนับ ซึ่งเมื่อท่านจะลงสุญูด ท่านก็จะวางหลานลง และเมื่อท่านยืนขึ้น ท่านก็จะอุ้มขึ้นมาอีกครั้ง (อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 494)
ลกุรอานได้ยืนยันว่าศาสนทูตอีซา (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) ถือเป็นหนึ่งในศาสนทูตที่สำคัญและมีเกียรติที่สุด ส่วนมารดาของท่านก็เป็นหญิงที่มีความสัจจริง เป็นผู้ที่มุ่งมั่น ขยันทำความดี และเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของนาง เป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากมลทินต่างๆ นางได้ตั้งครรภ์ศาสนทูตอีซา (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) โดยไม่มีบิดา (ไม่ได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับชายใด)
ศาสนทูตอีซาหรือพระเยซู (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ และถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้ฝากผลงานที่ดีแก่มนุษยชาติ จุดยืนของผู้คน ที่มีต่อตัวท่านนั้นแตกต่างกันไป บางคนถือว่าท่านเป็นพระเจ้า หรือเป็นบุตรของพระเจ้า ในขณะที่อีกฝั่งถึงขั้นประกาศเป็ นปรปักษ์กับท่าน รวมถึงใส่ร้ายป้ายสีต่อท่าน
บางคนเข้าใจว่าอัลกุรอานไม่ได้มีอะไรนอกจากเรื่องราวและชีวประวัติของท่านศาสนทูตมุฮัมมัด (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) แต่พวกเขากลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าว่าอัลกุรอานได้กล่าวถึงชื่อ อีซาหรือพระเยซู (ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน)
เราพบว่ามีบางศาสนาที่ได้มอบสิทธิพิเศษแก่คนบางคนเหนือกว่าคนอื่นๆ และได้ผูกมัดการเคารพภักดีและการศรัทธาของผู้คนกับความพอใจและความคิดเห็นของพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งตามหลักความเชื่อของบางศาสนา คนเหล่านั้นคือตัวแทนระหว่างผู้คนกับพระผู้เป็นเจ้า และเป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ให้
تطوير midade.com
