วิดีโอการเผยแผ่ศาสนา

ซูเราะฮ์อัล ญินน์ 16
ซูเราะฮ์อัล ญินน์ 16

ซูเราะห์อัล-ญิน (Surah Al-Jinn) โองการที่ 16 นี้ เผยถึงพระสัญญาอันยิ่งใหญ่ว่า "หากพวกเขาดำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรง เราก็จะหลั่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่พวกเขาดื่ม" ซึ่ง "น้ำอันอุดมสมบูรณ์" นี้ เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง ความผาสุก และการประทานปัจจัยยังชีพ จากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) อย่างมากมายและไม่ขาดสาย โองการนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการยึดมั่นในความถูกต้อง และการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนอันเที่ยงตรง นำมาซึ่งความเมตตาและพรจากพระเจ้าอย่างไม่ขาดสาย เป็นข้อเตือนใจให้เราดำรงตนอยู่บนหนทางแห่งความชอบธรรม เพื่อชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสงบสุขและความมั่นคงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ซูเราะฮ์ฮูด อายะฮ์ 116 117
ซูเราะฮ์ฮูด อายะฮ์ 116 117

มาร่วมพิจารณาความหมายอันลึกซึ้งของโองการที่ 116-117 จากซูเราะฮ์ฮูดในอัลกุรอาน โองการเหล่านี้เตือนใจเราถึงประชาชาติในอดีต ที่มักขาดแคลนผู้มีปัญญาและคุณธรรมคอยยับยั้งการฉ้อฉลบนหน้าแผ่นดิน มีเพียงส่วนน้อยที่รอดพ้นจากการทำลายล้าง เพราะชนส่วนใหญ่หลงระเริงกับความสุขสบาย และความฟุ่มเฟือย จนกลายเป็นผู้กระทำผิดและอาชญากร แต่ทว่า โองการที่ 117 ได้ตอกย้ำหลักความยุติธรรมอันสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า ว่าพระองค์จะไม่ทรงทำลายเมืองใดๆ ด้วยความอยุติธรรม ในขณะที่ผู้คนของเมืองนั้นยังคงประพฤติตนเป็นผู้แก้ไข ปรับปรุง และสร้างสรรค์ความดีงาม นี่คือบทเรียนอันทรงพลังที่ชี้ให้เห็นว่าการดำรงอยู่ของความดีงามและการต่อสู้กับความชั่วร้ายในสังคมคือเกราะป้องกันที่แท้จริงจากการถูกลงโทษ กระตุ้นเตือนให้เราทุกคนร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและความชอบธรรม

อัต เตาบะฮฺ อายะฮ์ 67
อัต เตาบะฮฺ อายะฮ์ 67

โองการสำคัญจากซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ (การกลับตัว) บทที่ 67 นี้ ได้ฉายภาพอย่างชัดเจนถึงพฤติกรรมและจุดจบของผู้กลับกลอก (มุนาฟิก) ทั้งชายและหญิง พวกเขาเหล่านั้นมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันคือ สั่งสอนให้ผู้คนทำความชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง (มุนกัร) และห้ามปรามไม่ให้ทำความดีงามหรือสิ่งที่ชอบธรรม (มะอ์รูฟ) อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ยอมจ่ายในหนทางของอัลลอฮ์ หรือไม่ยอมลงมือทำความดี สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญคือ พวกเขาได้หลงลืมอัลลอฮ์ และด้วยเหตุนี้ อัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่งจึงทรงทอดทิ้งพวกเขา ไม่ทรงให้ความเมตตาและทางนำ เป็นการตอกย้ำว่า แท้จริงแล้ว ผู้กลับกลอกเหล่านี้คือผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของอัลลอฮ์อย่างรุนแรงและชัดเจน โองการนี้จึงเป็นคำเตือนที่ลึกซึ้งและบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับผู้ศรัทธาทุกคน ให้สำรวจจิตใจของเราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เราจะได้ไม่ตกอยู่ในบ่วงของความกลับกลอก และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ที่ส่งเสริมความดีงาม ละเว้นความชั่ว และอยู่ในความเมตตาของพระองค์เสมอไป

อัต เตาบะฮฺ อายะฮ์ 71
อัต เตาบะฮฺ อายะฮ์ 71

โองการที่ 71 จากซูเราะห์อัตเตาบะฮ์นี้เน้นย้ำถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้น ระหว่างผู้ศรัทธาชายและหญิงทุกคน พวกเขาคือผู้เป็นมิตรและผู้คุ้มครองซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความดีงาม และยับยั้งความชั่วร้ายในสังคมอย่างแข็งขัน โองการยังกล่าวถึงหน้าที่สำคัญในการดำรงการละหมาดอย่างเคร่งครัด และการบริจาคซะกาตเพื่อช่วยเหลือผู้อ่อนแอและผู้ขัดสน เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ศรัทธาเหล่านี้เชื่อฟังอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์อย่างแท้จริง ด้วยคุณลักษณะอันประเสริฐเหล่านี้ อัลลอฮ์จะทรงประทานความเมตตาแก่พวกเขาอย่างแน่นอน สะท้อนถึงพระมหาเดชานุภาพและพระปรีชาญาณอันไร้ขีดจำกัดของพระองค์

อัล บะเกาะเราะฮฺ อายะฮ์ 30
อัล บะเกาะเราะฮฺ อายะฮ์ 30

อายะฮ์อันทรงพลังจากซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ โองการที่ 30 นี้ พาเราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาสำคัญยิ่งก่อนการเนรมิตสร้างมนุษย์ มันเล่าเรื่องการประกาศจากพระองค์อัลลอฮ์ต่อมลาอิกะฮ์ (ทูตสวรรค์) ว่าพระองค์จะทรงแต่งตั้ง "คอลีฟะฮ์" หรือผู้สืบอำนาจบนโลก ซึ่งก็คือมนุษย์นั่นเอง มลาอิกะฮ์ผู้บริสุทธิ์และภักดี ได้ทูลถามด้วยความกังวลว่าพระองค์จะทรงแต่งตั้งผู้ที่จะก่อความเสียหายและหลั่งเลือดในโลกกระนั้นหรือ ทั้งที่พวกเขาเองนั้นต่างแซ่ซ้องสดุดีและเทิดทูนพระองค์ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม พระปัญญาอันลึกซึ้งของอัลลอฮ์ได้ปรากฏขึ้นในการตอบว่า "แท้จริงข้ารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้" อายะฮ์นี้ตอกย้ำบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ในฐานะตัวแทนของอัลลอฮ์บนโลก ซึ่งมาพร้อมศักยภาพอันยิ่งใหญ่ทั้งในด้านความดีและความรับผิดชอบ เตือนใจให้เราตระหนักถึงแผนการอันแยบยลและความรอบรู้ที่สมบูรณ์แบบของอัลลอฮ์ผู้ทรงอานุภาพ

อัล บะเกาะเราะฮฺ อายะฮ์ 256
อัล บะเกาะเราะฮฺ อายะฮ์ 256

อัลบะเกาะเราะฮ์: 256 เป็นโองการอันล้ำค่าที่ประกาศหลักการสำคัญยิ่งของอิสลาม: "ไม่มีการบังคับในเรื่องศาสนา" โดยเน้นย้ำถึงเสรีภาพในการเลือกศรัทธาอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ปราศจากการกดขี่ใดๆ โองการนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สัจธรรมและทางนำที่ถูกต้องได้ประจักษ์แจ้งและแตกต่างจากความหลงผิดแล้วอย่างถ่องแท้ ดังนั้น ผู้ใดที่ปฏิเสธสิ่งจอมปลอมและสิ่งชั่วร้าย (ฏอฆูต) และยึดมั่นศรัทธาในอัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียว เขาก็ได้ยึดเหนี่ยวห่วงอันมั่นคงที่ไม่มีวันขาดสะบั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันที่แข็งแกร่งกับพระองค์อย่างมิอาจทำลายได้ หลักการนี้มอบความมั่นคงทางจิตวิญญาณและความสงบแก่ผู้ศรัทธา ให้รู้ว่าการเลือกทางธรรมมาจากเจตจำนงเสรี ไม่ใช่การบีบบังคับใดๆ และปิดท้ายด้วยการย้ำเตือนว่าอัลลอฮ์ทรงได้ยินทุกสิ่งและทรงรอบรู้ในทุกสรรพสิ่งเสมอ แสดงถึงความเมตตาและปรีชาญาณอันไร้ขีดจำกัดของพระองค์ ทำให้โองการนี้เป็นแหล่งแห่งความกระจ่างแจ้งและสันติภาพแก่ทุกหัวใจ.

تطوير midade.com

جمعية طريق الحرير للتواصل الحضاري