วิดีโอการเผยแผ่ศาสนา

อัลฮัจญ์ 19-22
อัลฮัจญ์ 19-22

ดำดิ่งสู่ความหมายอันลึกซึ้งและคำเตือนที่ชัดเจนจากอัลกุรอาน ซูเราะห์อัลฮัจญ์ (Al-Hajj) โองการที่ 19-22 ที่บรรยายถึงปลายทางของผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ โองการเหล่านี้เผยให้เห็นภาพการลงโทษอันแสนสาหัสและไม่สามารถหลีกหนีได้ สำหรับผู้ที่โต้เถียงเกี่ยวกับพระเจ้าของพวกเขาโดยไม่ศรัทธา พวกเขาจะต้องสวมอาภรณ์ที่ทอขึ้นจากเปลวเพลิง น้ำเดือดจัดจะถูกเทราดลงบนศีรษะ ชะล้างสิ่งที่อยู่ในท้องและหลอมละลายผิวหนัง ความเจ็บปวดมิได้หยุดเพียงเท่านั้น แต่พวกเขาจะถูกทุบตีด้วยฆ้อนเหล็กอันมหึมา ทุกครั้งที่ความทุกข์ทรมานเกินทน พวกเขาพยายามจะหลบหนีออกจากนรกอันโหดร้าย แต่ก็จะถูกผลักกลับไปสู่ไฟที่ลุกโชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อลิ้มรสการทรมานอันไม่สิ้นสุดที่ไม่มีวันหลุดพ้นจากเปลวเพลิงแห่งการลงโทษนี้

อัซ-ซูมาร์ 23
อัซ-ซูมาร์ 23

อัลซูมัร 23: โองการอันทรงพลังนี้เผยให้เห็นแก่นแท้ของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ในฐานะ "ถ้อยคำที่ดีเลิศที่สุด" ที่อัลลอฮฺทรงประทานลงมา เป็นคัมภีร์ที่สอดคล้องกลมกลืนและได้รับการกล่าวซ้ำย้ำเตือน เพื่อให้จิตวิญญาณของผู้ศรัทธาได้ตื่นตัวและสัมผัสความเกรงกลัวอันศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงแรกผิวหนังของพวกเขาอาจลุกชันด้วยความยำเกรง แต่ในที่สุด ความยำเกรงนั้นจะนำไปสู่ความสงบสุขลึกซึ้ง หัวใจของพวกเขาจะอ่อนโยนลงและพบความสงัดเมื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺผู้ทรงสร้าง นี่คือการชี้นำที่แท้จริงจากอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์จะทรงนำทางผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ให้ได้รับทางนำ และสำหรับผู้ที่อัลลอฮฺทรงปล่อยให้หลงทางนั้น จะไม่มีผู้ใดสามารถนำทางพวกเขาได้เลย โองการนี้จึงเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความยิ่งใหญ่ของอัลกุรอาน และความสำคัญของการแสวงหาทางนำที่แท้จริงจากพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ให้เราได้ใคร่ครวญและรับเอาสารจากอัลลอฮฺมาปรับใช้ในชีวิต

อัลนาบะห์ 40
อัลนาบะห์ 40

แท้จริงแล้ว สัญญาณแห่งวันแห่งการพิพากษาอันใกล้ได้ถูกเตือนแก่เราแล้ว วันที่มนุษย์ทุกคนจะได้เผชิญหน้ากับผลของการกระทำของตนเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ทุกสิ่งที่สองมือได้สร้างสมไว้ ทั้งคุณงามความดีและบาปกรรม จะถูกนำมาเปิดเผย ไม่มีสิ่งใดจะถูกซ่อนเร้นไปจากสายตาแห่งความยุติธรรมอันสูงสุด ในวันนั้น ผู้ศรัทธาจะพบกับความหวังและความสุขในสิ่งที่ได้กระทำ ทว่า สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธา ความจริงจะปรากฏขึ้นพร้อมกับความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พวกเขาจะปรารถนาอย่างยิ่งยวดถึงขั้นกล่าวว่า “โอ้... หากฉันเป็นเพียงผงธุลีดินเสียก็จะดี” คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความสิ้นหวังอันแสนสาหัสที่ไม่อาจแก้ไข ดังนั้น จงใคร่ครวญและเตรียมพร้อมสำหรับวันนั้นด้วยการทำความดีในวันนี้

อัลนิสา 82
อัลนิสา 82

อัล-กุรอาน ซูเราะฮฺอัน-นิสาอ์ อายะฮฺที่ 82 เชิญชวนให้เราทุกคนหยุดคิดและใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งถึงการกำเนิดและสาระสำคัญของคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ อายะฮฺนี้ตั้งคำถามเชิงท้าทายว่า เหตุใดผู้คนจึงไม่พิจารณาอัล-กุรอานด้วยใจที่เปิดกว้าง และยืนยันอย่างชัดเจนว่า หากคัมภีร์เล่มนี้มาจากผู้ที่ไม่ใช่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) แน่นอนว่าจะต้องพบกับความขัดแย้ง ความไม่สอดคล้อง หรือข้อผิดพลาดมากมายในเนื้อหา แต่ในความเป็นจริง การที่อัล-กุรอานไร้ซึ่งความขัดแย้งใดๆ ตลอดระยะเวลากว่า 1,400 ปี คือหลักฐานอันประจักษ์และปาฏิหาริย์ที่ยืนยันว่า คัมภีร์เล่มนี้มาจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงปรีชาญาณเพียงองค์เดียว มันคือสารจากฟากฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ไม่เปลี่ยนแปลง และเป็นทางนำอันเที่ยงตรง เชื้อเชิญให้เราสำรวจด้วยวิจารณญาณ เพื่อค้นพบสัจธรรมที่ส่องสว่าง และตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระดำรัสแห่งอัลลอฮฺอย่างแท้จริง

ปาฏ หาร ย ท เคยเก ดข นด วยม อของท านศาสดาม ฮ มม ด ศ อลฯ
ปาฏ หาร ย ท เคยเก ดข นด วยม อของท านศาสดาม ฮ มม ด ศ อลฯ

ปาฏิหาริย์แห่งท่านศาสดามูฮัมมัด (ศ็อลฯ) คือปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ประจักษ์พยานถึงความเป็นศาสนทูตของท่าน ซึ่งเกิดขึ้นด้วยพระประสงค์และอำนาจของอัลลอฮ์โดยเฉพาะ. หนึ่งในนั้นคือการที่ท่านได้แสดงการแยกดวงจันทร์ออกเป็นสองเสี้ยวตามคำท้าทายของผู้ปฏิเสธศรัทธาแห่งมักกะห์ ทำให้ผู้คนจำนวนมากได้เห็นด้วยตาตนเองถึงอำนาจอันเหนือธรรมชาติ. อีกปาฏิหาริย์ที่สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งคือการที่น้ำบริสุทธิ์ได้ไหลรินออกจากปลายนิ้วมืออันจำเริญของท่าน ในยามที่เหล่าบรรดาสาวก (เศาะฮาบะฮ์) นับพันห้าร้อยคนต้องประสบภาวะขาดแคลนน้ำดื่มและอาบชำระร่างกาย. นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์เหลือเชื่ออื่นๆ อีกมากมาย เช่น การคืนดวงตาของท่านกุฏอดะห์ที่หลุดออกมาให้กลับคืนสู่เบ้าตาได้อย่างสมบูรณ์ราวกับไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน หรืออาหารที่เพิ่มพูนในมือของท่าน. ปาฏิหาริย์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันสัจธรรมแห่งการประกาศศาสนาของท่านเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนที่สะท้อนถึงพลังอำนาจแห่งพระผู้เป็นเจ้า. ท่านศาสดามูฮัมมัดยังคงเป็นบุคคลเดียวในประวัติศาสตร์โลกที่เหล่าผู้ศรัทธาต่างยึดถือและเลียนแบบทุกแง่มุมของชีวิตท่านอย่างเคร่งครัด. ไม่ว่าจะเป็นการนอน การรับประทานอาหาร การดื่ม การแต่งกาย ไปจนถึงวัตรปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างละเอียดถี่ถ้วน. แนวทางปฏิบัติอันบริสุทธิ์ของท่านหรือที่เรียกว่า "ซุนนะฮ์" ได้ถูกส่งต่อและยึดมั่นอย่างเหนียวแน่นจากรุ่นสู่รุ่นตลอดระยะเวลาอันยาวนาน. สิ่งนี้แสดงถึงความรัก ความเคารพ และการศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อท่านศาสดาผู้เป็นแบบอย่างอันสูงสุดและสมบูรณ์แบบ. ปาฏิหาริย์และแบบอย่างอันประเสริฐของท่านยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้มุสลิมทั่วโลกดำเนินชีวิตตามครรลองอันบริสุทธิ์นี้ตลอดมา.

تطوير midade.com

جمعية طريق الحرير للتواصل الحضاري